ประกันสัตว์เลี้ยงจำเป็นอย่างไร?

โดยปัจจุบันประกันสัตว์เลี้ยงยังคงสามารถทำได้แค่ประกันสุนัข ประกันแมวเท่านั้น แต่ทว่าหน้าที่ของประกันสัตว์เลี้ยงนั้นมีความคุ้มครองมากมาย หรือยกตัวอย่างง่ายจะคล้าย ๆ กับประกันชีวิตของคน เมื่อใดก็ตามที่เกิดเหตุฉุกเฉินเราต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้สัตว์เลี้ยงของเรา ซึ่งโดยปกติแล้วหากเราชำระค่าเบี้ยประกันสัตว์เลี้ยงเราก็จะไม่ต้องเสียค่ารักษาพยาบาลที่ไม่คาดคิด อีกทั้งอย่างที่เรารู้ ๆ กันว่าค่ารักษาหมาหรือแมวนั้นเผลอ ๆ แล้วอาจมีราคาสูงมากกว่าค่ารักษาของคนเราเสียอีก

อธิบายง่าย ๆ เหมือนว่าประกันสัตว์เลี้ยงจะช่วยเข้ามาแบ่งเบาเรื่องค่ารักษาพยาบาลจากการเจ็บป่วยจากอุบัติเหตุ และช่วยบรรเทาความรับผิดชอบในกรณีที่มีผู้เสียหายได้รับความเดือดร้อนจากสัตว์เลี้ยงของเรา อาทิ การที่สุนัขของเราไปกัดคนอื่น รวมไปถึงบางบริษัทยังคุ้มครองถึงค่าใช้จ่ายในพิธีศพสัตว์เลี้ยงแสนรักของเราอีกด้วย อีกทั้งสำหรับบางบริษัท หรือบางกรมธรรม์ที่เราเลือกแล้วอาจจะช่วยเราเซฟค่าใช้จ่ายในส่วนของเรื่องค่าวัคซีน ค่าฝากเลี้ยง และส่วนอื่น ๆ ซึ่งแต่ละบริษัทจะมีเงื่อนไขที่แตกต่างกันออกไป

อ่านมาถึงตรงนี้หลาย ๆ คนคงเริ่มอยากทำประกันสัตว์เลี้ยงให้กับหมาแมวของตัวเองกันแล้วแน่ ๆ

ก่อนอื่นเลยเราอาจจะต้องมาลองสำรวจ 3 วิธีที่จะทำให้เราสามารถเลือกประกันสัตว์เลี้ยงให้เหมาะสมได้กันก่อน

เราอาจจะมองถึงประเภทของสัตว์เลี้ยงของเราก่อน ไม่ว่าจะเป็น หมา แมว รวมถึงสายพันธุ์ และขนาดของตัวสัตว์เลี้ยง
ความเสี่ยงที่สัตว์เลี้ยงของเราอาจจะต้องพบเจออยู่บ่อย ๆ เพื่อการตัดสินใจเลือกกรมธรรม์ที่คุ้มค่ากับเรามากขึ้น
เลือกแผนค่าเบี้ยที่เราสามารถจ่ายไหว ยังคงสภาพการเงินของเราคล่อง ไม่กระทบค่าใช้จ่ายส่วนอื่นสำหรับหมาแมวของเรา

แต่ใช่ว่าเราจะสามารถทำประกันสัตว์เลี้ยงให้กับหมาแมวของเราได้เลยนะ เพราะเราต้องผ่านเงื่อนไขขั้นพื้นฐานที่บริษัทประกันกำหนดก่อนด้วย

ประกันสัตว์เลี้ยงจำเป็นอย่างไร?

โดยเงื่อนไขพื้นฐาน หลัก ๆ สำหรับประกันสุนัข ประกันแมว มีดังนี้

สัตว์เลี้ยงของเราต้องสุขภาพดีสมบูรณ์ ไม่ป่วย ไม่บาดเจ็บ ไม่พิการ
สัตว์เลี้ยงต้องอยู่ในประเทศไทย
สัตว์เลี้ยง 1 ตัว สามารถซื้อได้ 1 กรมธรรม์ (ต่อ 1 บริษัท)
ต้องมีเอกสารทางการแพทย์ หรือผลการตรวจสุขภาพ (แต่บางบริษัทอาจไม่ต้องตรวจสุขภาพ แต่ต้องมีเอกสารการฉีดวัคซีนตามที่สัตว์แพทย์นัด เช่น โรคพิษสุนัขบ้า โรคไข้หัด (สุนัข/แมว) โรคหวัด โรคฉี่หนู และอื่น ๆ (บางบริษัทอาจมีเงื่อนไขที่มากขึ้น อยู่ที่เราเลือก อย่าลืมศึกษาก่อนตัดสินใจทำประกัน)

แล้วประกันสัตว์เลี้ยงส่วนใหญ่คุ้มครองอะไรบ้าง?
โดยส่วนใหญ่แล้วจะคุ้มครองในส่วนของ

ค่ารักษาพยาบาล
ค่ารักษาอุบัติเหตุ
ทรัพย์สินบุคคลภายนอกที่เสียหายจากสัตว์เลี้ยงของเรา
ค่ารักษาพยาบาลของบุคคลภายนอกที่เกิดจากสัตว์เลี้ยงของเรา
ค่าจัดงานศพสัตว์เลี้ยง
ค่าติดตามสัตว์เลี้ยงสูญหาย (มีบางบริษัท)

อีกทั้งความคุ้มครองส่วนใหญ่สามารถใช้ได้ทั้งที่คลินิกรักษาสัตว์เลี้ยงใกล้บ้าน หรือโรงพยาบาลสัตว์เลี้ยงชั้นนำทั่วประเทศ เรียกได้ว่าเราสามารถนำสัตว์เลี้ยงของเราเข้ารักษาที่โรงพยาบาลชั้นนำโดยไม่ต้องกังวลถึงค่าใช้จ่ายว่าจะแพงมากแค่ไหน และเพื่อให้สัตว์เลี้ยงแสนรักได้รับการดูแลที่ดีที่สุด ประกันสัตว์เลี้ยงจึงสำคัญแบบนี้นี่เอง (แต่บางบริษัท และบางเงื่อนไขกรมธรรม์อาจมีสำรองจ่ายนะ)

แล้วเงื่อนไขที่ประกันสัตว์เลี้ยงบางบริษัทไม่คุ้มครองหล่ะมีอะไรบ้าง?
โดยเงื่อนไขหลัก ๆ แล้วที่บริษัทจะไม่คุ้มครองสัตว์เลี้ยงของเรา ได้แก่

สัตว์เลี้ยงถูกฆ่าโดยเจตนา เช่น ถูกวางยา ถูกแกล้ง ฯลฯ
กรณีเสียชีวิตจากการเลี้ยงไม่ถูกสุขลักษณะ เช่น ภาวะขาดอาหาร เสียชีวิตจากความร้อน (โรคสัตว์เลี้ยงอย่าง ฮีทสโตรก)
กรณีเสียชีวิตจากโรคระบาดของสัตว์เลี้ยง อาทิ โรคหัดสุนัข
ไม่คุ้มครองสัตว์เลี้ยงจากโรคที่ป่วยก่อนทำประกัน
ไม่คุ้มครองสัตว์เลี้ยงที่เสียชีวิตหรือป่วยภายใน 60 วันแรกหลังจากทำประกัน

อีกทั้งบางบริษัทจะมีเงื่อนไขพิเศษ เช่น สิ้นสุดความคุ้มครองเมื่อขายสัตว์เลี้ยงให้คนอื่น หรือบริษัทรู้ว่าเลี้ยงผิดวัตถุประสงค์ที่เราแจ้งไว้กับบริษัท

ทั้งหมดที่กล่าวมาหลาย ๆ คนคงสงสัย แล้วค่าเบี้ยประกันสุนัข ประกันแมวจะแพงแค่ไหนกันนะ

โดยปกติแล้วค่าเบี้ยประกันสุนัข ประกันแมวจะเริ่มต้นในราคาเดียวกันที่ 500 – 7,000 บาทขึ้นไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพันธุ์ ขนาด อายุ รวมถึงแผนประกันที่เราเลือก และบริษัทที่เราต้องการนั่นเอง

ประกันสัตว์เลี้ยงจำเป็นอย่างไร?

เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้แล้วสำหรับทาสหมา ทาสแมว อย่างเราอาจจะเริ่มมองถึงความคุ้มค่า และค่าเบี้ยที่สามารถจ่ายไหวไม่กระทบกระเป๋าตังค์ของเราเกินไป