ความแตกต่างระหว่างกล้องวงจรปิดมาตรฐานและอินฟราเรด

  1. กล้องวงจรปิดมาตรฐาน (Standard Camera)

เรียกอีกอย่างหนึ่งว่ากล้อง กล้อง Box เป็นกล้องวงจรปิดที่ออกแบบเป็นทรงสี่เหลี่ยมเหมือนกล่อง กล้องชนิดนี้สามารถเปลี่ยนขนาดเลนส์ เพื่อมองมุมกว้าง และสามารถมองเห็นในที่ที่มีแสงน้อยแต่ไม่ใช่มืดสนิท คุณสามารถเลือกเลนส์ใช้ให้เหมาะกับความต้องการแต่ละพื้นที่ได้ โดยทั่วไปจะมีขนาดเลนส์ 3.6 mm. ตัวอย่างเช่น เอาไปต่อกับ lens auto iris เพราะเมื่อส่องป้ายทะเบียนรถจะมีแสงจากไฟหน้ารถยนต์ส่องมายังกล้อง กล้องตัวนี้จะช่วยซูมภาพป้ายทะเบียนรถยนต์ได้ชัดขึ้น หรือติดตามเคาน์เตอร์ร้านสะดวกซื้อหรือร้านทอง กรณีที่ต้องจับภาพย้อนแสง เป็นต้น

  1. กล้องวงจรปิดอินฟราเรด (IR Camera)

กล้องวงจรปิดอินฟราเรด เป็นกล้องวงจรปิดที่ใช้งานได้ทั้งกลางวันและกลางคืน เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ต้องการรักษาความปลอดภัยสูง เพื่อเฝ้าระวังแจ้งเตือนเหตุที่จะเกิดขึ้นตลอดคืน โดยในเวลากลางวันตัวกล้องจะแสดงภาพเป็นภาพสี ส่วนในเวลากลางคืนตัวกล้องวงจรปิดจะเปลี่ยนไปเป็นโหมดภาพขาว-ดำ โดยอัตโนมัติ ด้านหน้าตัวกล้องวงจรปิดจะมีหลอด LED อินฟราเรดที่จะส่องแสงสว่างอัตโนมัติในตอนกลางคืน ตัวกล้องเหมาะกับการใช้งานในสถานที่ที่ค่อนข้างมืดถึงมืดสนิท เช่น ด้านหลังอาคารสำนักงาน ลานจอดรถ ภายในห้องเก็บของ ห้องสต๊อกสินค้า หรือตามซอกกำแพงต่างๆ เป็นต้น

IR Camera แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ

กล้อง Dome

ถูกออกแบบมาให้มีความกะทัดรัด เป็นรูปทรงโดมครึ่งวงกลม มีความสวยงามเหมาะกับการติดตั้งภายในอาคารสำนักงานต่างๆ กล้องชนิดนี้จำเป็นต้องติดตั้งใต้ฝ้าเพดานเป็นหลัก หรือไม่ก็เหมาะกับติดตั้งตามแนวกำแพง ไม่เหมาะกับการใช้ภายนอกอาคาร เพราะตัวกล้องวงจรปิดชนิดนี้อาจจะไม่ได้ถูกออกแบบมาให้กันน้ำ เมื่อติดตั้งกล้องวงจรปิดแบบโดมจะทำให้ไม่มีใครสังเกต เพราะขนาดที่กะทัดรัด กลมกลืนกลับฝ้าเพดาน สถานที่ที่นิยมติดตั้งกล้องชนิดนี้ คือ โรงแรม คอนโด อาคารสำนักงาน ธนาคารต่างๆ เป็นต้น

กล้อง Bullet

จะอยู่ในรูปทรงกระบอกยาวและใช้ในที่อยู่อาศัยเป็นสถานที่เชิงพาณิชย์ ตัวกล้องถูกออกแบบมาให้มีขนาดเล็กเหมาะที่จะติดตั้งใต้ฝ้าและผนังกำแพง มีการออกแบบวงจรที่มีประสิทธิภาพทำให้เห็นสว่างแม้ในตอนกลางคืนเพราะกล้องชนิดนี้จะกินแสงต่ำ และสามารถใช้งานภายนอกอาคารได้เพราะตัวกล้องถูกออกแบบมาให้ทนแดดทนฝนได้ดี