กลุ่มคนเหล่านั้นประกอบด้วย กลุ่มที่แพ้ยาช้า เพราะก่อนทำต้องใช้ยาช้า, คนที่ทำต้อง ไม่มีโรคเรื้อรัง หรือ โรคร้ายแรง เช่น โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง เพราะเวลาเจ็บความดันจะขึ้นสูง
กลุ่มที่เป็นแผลคีรอยด์ได้ง่าย หรือแผลนูน แผลหายช้า, กล่มที่เป็นโรคเลือด ต่างๆ ทำให้เลือดแข็งตัวช้า กลุ่มที่กินอาหารเสริม หรือ สมุนไพร ที่ยับยั้งการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน อีฟนิ่งพริมโรส วิตามินอี ดังนั้น ก่อนร้อยไหมควรงดยา อาหารเสริมหรือสมุนไพรกลุ่มนี้ก่อน ประมาณ 1-2 อาทิตย์ หลังร้อยไหมก็ควรงดต่ออีก 1-2 อาทิตย์
รวมถึง กลุ่มที่มีการติดเชื้อบนใบหน้า บริเวณที่ต้องการร้อยไหม เช่น เป็นสิว เป็นหนอง อาจต้องรักษาให้หายก่อน ไม่เช่นนั้นเวลาร้อยไหมแล้วเชื้ออาจจะกระจาย เป็นอันตรายได้
นอกจากนี้ กลุ่มที่ฉีดซิลิโคลนเหลว ก็ค่อนข้างอันตราย เพราะซิลิโคลนเหลวที่ฉีดจะทำให้เกิดพังผืดหรือการติดเชื้ออ่อนๆ เวลาร้อยไหมอาจทำให้การติดเชื้อลุกลามมากขึ้น กลายเป็นฝี หนอง ซึ่งเป็น เรื่องใหญ่ รักษายากมาก เพราะเวลาที่ซิลิโคลนเหลวติดเชื้อเอาออกไม่ค่อยได้ อาจต้องผ่าตัดล้างซิลิโคบลนหลายๆ ครั้งกว่าจะหมด
นอกจากนี้ พวกที่คาดหวังสูง โดยไม่ดูตามหลักความเป็นจริง เช่น อยากหน้าเรียวมากๆ ทั้งๆ ที่โครงสร้างของกระดูกและกล้ามเนื้อไม่พร้อม เช่น กล้ามเนื้อกรามใหญ่ โหนกแก้มสูง
รวมถึงคนที่มีเนื้อแก้มไขมันเยอะ การร้อยไหมหน้าอาจไม่เรียวอย่างที่ต้องการ เพราะผลของไหมที่จะทำให้ไขมันลดลงเป็นเรื่องประเมินยาก เพราะการร้อยไหมธรรมดาเป็นเพียงการร้อยชั้นผิวหนังไม่ใช่ชั้นไขมัน
ขณะเดียวกัน กลุ่มที่มีผิวหนังยืด หรือหย่อนคล้อยมากๆ เช่น ผู้สูงอายุ อาจต้องทำอย่างอื่น เช่น ร้อยไหมแบบผูกยึด หรือการผ่าตัดดึงหน้า เพราะร้อยไหมทั่วไปที่ทำกันช่วยแก้ปัญหาได้ เฉพาะกลุ่มที่ผิวหย่อนยานในช่วงแรกเริ่ม