ประเภทของน้ำมันมะพร้าวที่จำหน่ายในประเทศไทย
น้ำมันมะพร้าวตามท้องตลาดที่มีจำหน่าย จะแบ่งได้ 2 ประเภทใหญ่ๆคือ
Virgin Coconut Oil หรือ Extra Virgin Coconut Oil
เป็นน้ำมันที่สกัดด้วยกรรมวิธีสกัดเย็นจากเนื้อมะพร้าวสด โดยน้ำเนื้อมะพร้าวบดและผสมน้ำเพื่อแปรรูปเป็นกะทิก่อน จากนั้นค่อยนำกะทิที่ได้ไปเหวี่ยงเพื่อให้เกิดการแยกชั้นระหว่างน้ำมันกับน้ำแบบไม่ใช้ความร้อน โดยที่น้ำมันจะลอยอยู่เหนือน้ำเพราะมีความหนาแน่นน้อยกว่า จากนั้นก็แยกน้ำมันออกจากน้ำด้วยวิธีการดูดออก น้ำมันจะมีสีขาวใสเหมือนน้ำ น้ำมันมะพร้าวประเภทนี้จะไม่ผ่านการทำให้บริสุทธิ์หรือ Refine จึงทำให้มีคุณค่าทางอาหารสูงและมีประโยชน์ต่อร่างกายมากที่สุด (มีกรดไขมันอิ่มตัวสายยาวปานกลางและสารต้านอนุมูลอิสระสูง)
แม้ Virgin Coconut Oil จะมีประโยชน์ต่อร่างกายมากและมีคุณค่าทางอาหารสูง เหมาะสำหรับทานสดหรือประกอบอาหาร แต่ก็มีข้อเสียอยู่เช่นกันคือ
ราคาค่อนข้างสูง ขนาดบรรจุ 1,000 มิลลิลิตร (หรือ 1 ลิตร) จะมีราคาอยู่ที่ประมาณ 550-600 บาท อาจถูกหรือแพงกว่านี้ขึ้นอยู่กับฤดูกาลด้วย
น้ำมันมีกลิ่นและรสมะพร้าวชัดเจน คนที่ไม่ชอบกลิ่นมะพร้าวจะทานน้ำมันประเภทนี้ลำบาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อนำไปประกอบอาหาร จะมีกลินมะพร้าวที่ค่อนข้างแรง
Cooking Coconut Oil หรือน้ำมันมะพร้าวสำหรับทำอาหาร
เป็นน้ำมันที่สกัดด้วยกรรมวิธีใช้ความร้อนจากเนื้อมะพร้าว มักจะใช้เนื้อมะพร้าวที่ผ่านการสกัดเย็นมาแล้ว (เนื้อมะพร้าวมือสอง) อาจมีการผสมตัวทำละลายอย่างเช่น เฮกเซน เพื่อให้ได้ปริมาณน้ำมันที่มากขึ้น มีทั้งแบบที่ทำให้บริสุทธิ์ (Refined) และไม่ได้ทำให้บริสุทธิ์ (Unrefined) น้ำมันที่ได้จะมีสีเหลือง
น้ำมันประเภทนี้มีข้อดีคือ มีกลิ่นและรสมะพร้าวที่น้อยมากหรือไม่มีเลย ประกอบกับมีราคาค่อนข้างถูก เมื่อเทียบกับ Virgin Coconut Oil กล่าวคือ 1,000 มิลลิลิตรหรือ 1 ลิตร จะมีราคาอยู่ที่ 100 – 200 บาทเท่านั้น แต่ก็มีข้อเสียดังต่อไปนี้
การผลิตต้องผ่านความร้อนทำให้คุณค่าทางอาหารลดลง
กระบวนการผลิตอาจมีการใช้ตัวทำละลาย เพื่อให้ได้น้ำมันในปริมาณมาก
น้ำมันประเภทนี้ส่วนมากจะต้องผ่านกระบวนการทำให้บริสุทธิ์ (Refined) ทำให้ต้องผ่านความร้อนและใช้สารเคมีหลายชนิด
ดังนั้น น้ำมันมะพร้าวสำหรับทำอาหารที่ราคาถูก อาจมีคุณภาพดีไม่เท่ากับน้ำมันมะพร้าวสำหรับทำอาหารที่ราคาสูงหน่อย เพราะน้ำมันมะพร้าวที่ราคาสูง ผู้ผลิตจะไม่ใช้ตัวทำละลายในการสกัด จะใช้วิธีการเหวี่ยงภายใต้ความร้อน ส่งผลให้น้ำมันที่สกัดได้มีปริมาณน้อยกว่าเมื่อเทียบกับการใช้ตัวทำละลาย และไม่จำเป็นต้องใช้กระบวนการทำให้บริสุทธิ์ (Unrefined) ทำให้ไม่ต้องผ่านความร้อนและสารเคมีใดๆอีก คุณค่าทางอาหารและความปลอดภัยจึงมีมากกว่าน้ำมันที่ใช้ตัวทำละลายและผ่านกระบวนการทำให้บริสุทธิ์
วิธีการเลือกใช้น้ำมันมะพร้าว
แนวทางการเลือกใช้น้ำมันมะพร้าวแบบง่ายๆแต่ให้ได้ผลดี
ถ้าทานสดแนะนำให้ใช้น้ำมันมะพร้าวประเภท Virgin Coconut Oil ซึ่งมีจำหน่ายทั้งแบบบรรจุขวดและแบบแคปซูล คนที่ชอบทานน้ำมันมะพร้าวได้โดยตรงให้เลือกใช้แบบขวด ส่วนใครที่ไม่ชอบกลิ่นและรสของน้ำมันมะพร้าวให้เลือกใช้แบบแคปซูลทดแทนได้
ถ้าใช้ทาผิว บำรุงเส้นผม หมักผม ให้ใช้น้ำมันมะพร้าว Virgin Coconut Oil แบบขวด
ถ้าใช้ประกอบอาหาร สามารถใช้ได้ทั้งแบบ Virgin Coconut Oil และแบบ Cooking Coconut oil ขึ้นกับงบประมาณที่แต่ละท่านมี ในส่วนของ Cooking Coconut Oil พยายามเลือกใช้แบบ Unrefined ซึ่งมักจะระบุอยู่ในฉลาก(แต่บางยี่ห้อก็ไม่ระบุ) ยี่ห้อไหนที่ระบุว่า Refined ที่ฉลากมักจะใช้เฮกเซนเป็นตัวทำละลาย ราคาจะถูกมาก ถ้าไม่จำเป็นจริงๆไม่ควรบริโภค ควรเลือกเอาที่ราคาสูงหน่อย จะปลอดจากสารเคมีและดีต่อสุขภาพมากกว่า
น้ำมันมะพร้าวที่ดีมักจะราคาสมเหตุสมผล ควรหลีกเลี่ยงน้ำมันมะพร้าวที่ราคาถูกมาก เพราะกระบวนการผลิตมักใช้ความร้อนและสารเคมีหลายชนิด ซึ่งการบริโภคน้ำมันมะพร้าวประเภทนี้ อาจจะมีผลเสียต่อสุขภาพได้ในระยะยาว